วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันวาเลนไทน์



วันวาเลนไทน์   Valentine’s Day






วันแห่งความรัก Valentine’s Day
     





           ในปัจจุบันวัยรุ่นมีค่านิยมเรื่องวันแห่งความรักตามสมัยนิยม  อย่างเช่นวันวาเลนไทน์ ซึ่งตามประวัติแล้วเขาต้องการให้รักเพื่อนมนุษย์ แต่คนรุ่นใหม่ตีความหมายพลาดไป แล้วสร้างค่านิยมใหม่เรื่องความรัก และการมีความสัมพันธ์กัน โดยที่ยังไม่ตกลงนับถือกันเป็นคู่ชีวิต หรือทำเพื่อความสนุกสนาน ถือว่าเป็นค่านิยมที่ผิดทีเดียว เพราะความรักเป็นของสูงส่ง มิใช่ของสำส่อนเหมือนดังที่สัตว์  บางประเภทประพฤติอยู่เป็นปกติ
             วันวาเลนไทน์ ในการแก้ไขนั้นเราต้องเลิกค่านิยมนี้ และชักชวนกันศึกษาธรรมะ
 เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ถึงโทษ ความผิดศีล ผิดธรรม หรือแม้กระทั่งผิดกฎหมาย ส่งเสริมค่านิยมที่ถูกต้อง บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อบิดามารดา และสังคม แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องกามารมณ์ หรือสิ่งที่พาให้ใจไขว้เขว ฟุ้งซ่าน เพียงเท่านี้ ชีวิตก็จะมีคุณค่า และเป็นแบบอย่างที่ดีของโลก เพราะหากเรามีความรักที่แท้จริงให้แก่กัน เราย่อมมีความสุขุมเพียงพอที่จะเก็บรักษาสิ่งสำคัญนี้ ไว้เพื่อคนสำคัญของเราโอกาสที่ถูกทำนองคลองธรรม และไม่เป็นการทำร้าย หรือทำลายกัน

    
      วันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ Valentine’s Day แท้จริงแล้วคือวันรักนวลสงวนตัว ตามเจตนารมณ์เดิม ว่าเป็นวันแสดงความรักแก่เพื่อนมนุษย์ แสดงความรัก ความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ แต่ในเมื่อยุคสมัยได้บิดเบือนเจตนารมณ์ดั้งเดิมให้กลายเป็นเรื่องของเพศสัมพันธ์ไป เราต้องช่วยกันนำกลับไปสู่จุดดั้งเดิม คือสร้างความเข้าใจ และแบบแผนอันดีงามขึ้นมาใหม่

          แม้แต่การทดลองอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานนั้นก็ไม่ถูกหลักวิชชา เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของการทดลองทางวิทยาศาสตร์  แสดงให้เห็นว่ายังขาดความเข้าใจว่า ความรักมีเพื่อสิ่งใด ชีวิตคู่ไม่ใช่ของลองเล่น แต่เป็นสิ่งสูงส่ง เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ที่จะให้กายละเอียด ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างบ
ารมี และยกฐานะของเรา จากคู่รัก เป็นสามีภรรยา เป็นบิดาบารดา เป็นครู เป็นเทวดากระทั่งเป็นพระพรหม พระอรหันต์ในบ้าน ยกระดับไปตามขั้นตอน อย่างนี้จึงจะถูกหลักวิชชา


ความรักทรงกลม เรื่องของความรักดีๆ ในวันวาเลนไทน์นี้ Valentine’s Day 
          ความรักเป็นสิ่งที่ทุกผู้ทุกนามพึงมี บางคนรักแต่ตัวเอง รักอย่างนี้เรียกว่า "รักเห็นแก่ตัว" บางคนรักแค่คู่ครอง รักแค่ครอบครัว ก็จัดเป็นความรักแบบ "หางรัก" บางคนรักคนรอบตัวเพิ่มขึ้นไปอีกนิดก็เป็น "รักที่ยังไม่กว้าง" บางคนเลือกที่จะรัก จัดเป็นความรักแบบ "ลำเอียงรัก" ความรักเหล่านี้เป็นความรักแคบๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเศษแห่งรัก
 ความรักกว้าง ๆ เป็นอย่างไร เป็นความรักชนิดไหน

       ความรักดีๆ ในวันวาเลนไทน์นี้ 

          ทุกคนสามารถเข้าถึงความรักชนิดนี้ได้หรือไม่ อย่างไรรักหลากแบบ บางคนมองความรักไว้เพียงชาติเดียว มุ่งสะสมสมบัติ ชื่อเสียง เกียรติยศ ไม่ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ ทำให้ไม่รู้บุญรู้บาป ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ถ้าจะสุขก็สุขเพียงเล็กน้อย สุขได้อย่างเก่งก็แค่ชาติเดียว ชาติต่อไปอาจจะทุกข์อย่างมหันต์ก็ได้ คนรักตัวเอง 2 ชาติคือ ชาตินี้ กับชาติหน้า จึงจัดเป็นบัณฑิตได้ระดับหนึ่ง บุคคลประเภทนี้จะทำความดีเผื่อไว้ชาติหน้า บางคนรักตัวเองทุกชาติ รักที่จะข้ามห่วงแห่งทุกข์เข้าสู่ฝั่งพระนิพพาน จึงจัดเป็นบัณฑิตอย่างยิ่ง บุคคลประเภทนี้จะทำความดีอย่างยิ่งยวด บางคนนอกจากรักตัวเองทุกชาติแล้ว ยังปรารถนาให้สัตว์ทั้งหลายมีสุข พ้นทุกข์ เฉกเช่นเดียวกับตน มีความเมตตากรุณาแก่เหล่าสัตว์โดยทั่วหน้า บุคคลประเภทนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากพระโพธิเจ้าเท่านั้น ความรักอย่างนี้จัดเป็นความรักสูงสุด ความรักสูงสุดต้องเป็นความรักที่เท่าเทียม ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ เป็นรักที่ไร้อคติ เป็นความรักกว้างขวางที่แผ่ขยายไปอย่างไม่มีขอบเขต เป็นความรักทรงกลม เป็นความรัก 360 องศา เป็นรักรอบตัว เป็นความรักที่มอบแก่สรรพสัตว์โดยปราศจากความกำหนัดยินดีและแผ่ขยายรอบตัวต่อไปอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังคำของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ว่า "เหมือนเป็นทรงกลมที่ไม่มีเส้นรอบวง" ความรักชนิดนี้เป็นความรักที่กว้างขวางยิ่งใหญ่ ไม่เป็นความรักที่พุ่งหาเฉพาะใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรักที่แผ่ขยายรอบตัว เหมือนเป็นพลังมวลแห่งความบริสุทธิ์ที่ขยายกว้างออกไปพร้อม ๆ กันทั้ง 360 องศา ความรักประเภทนี้ผู้เขียนขอเรียกสั้น ๆ ว่า "ความรักทรงกลม"

         
ความรักทรงกลมความรักทรงกลมนี้เป็นความรักสูงสุด มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการทำใจให้หยุดนิ่ง สงบเป็นสมาธิจนเข้าถึงภาวะแห่งความรักทรงกลม คือ เข้าถึงดวงธรรมภายใน ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 (อยู่กลางตัวเหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ) ยิ่งดวงธรรมแผ่ขยายไปถึงไหน ความรักและความปรารถนาดีอันบริสุทธิ์ก็ไปถึงนั่น เป็นความรักมาตรฐาน รักที่อมตะ เป็นความสุขแท้ทั้งผู้รับและผู้มอบ เป็นความรักที่ท้าทายการเข้าถึง ซึ่งอยู่ในตัวของท่านเอง !   

วันวาเลนไทน์ คือ วันแห่งความรักทุกๆ คน


       ธรรมะดีๆในวันวาเลนไทน์

         ความรักที่จะเกิดผลดี คือเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนที่รุนแรงไปในทางสร้างสรรค์ได้ จะต้องไปคู่กับความรับผิดชอบ ถ้าปล่อยให้อารมณ์สิเน่หาดึงเราเพลิดไปตามอารมณ์ เกิดผลเสียได้เยอะ แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่เกิดมาคู่กับความรับผิดชอบ ซึ่งมันก็คือการจะไม่มองอะไรไกลขึ้นกว่าความต้องการเฉพาะหน้า ถ้าอย่างนี้แล้วละก็เราสามารถเปลี่ยนอารมณ์นี้ไปในทางสร้างสรรค์ได้ อย่างมีพระเดชพระคุณพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งซึ่ง ท่านก็ฟังมาจากพระอาจารย์ท่านอีกต่อหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์รูปนั้นเคยเป็นอุปัฏฐากเป็นพระเลขาส่วนตัวของพระเดชพระคุณ หลวงปู่ ตอนหลังมาเป็นเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ท่านพระเดชพระคุณพระราชโมลีองค์ก่อน องค์ปัจจุบันคือพระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของธรรมทายาท ท่านเจ้าคุณพระราชโมลีท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านนายห้างสวัสดิ์ โอสถานุเคราะห์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมาก เริ่มต้นตอนทีท่านยังหนุ่มฐานะก็ยังธรรมดานะ ไม่ได้เป็นคนมีฐานะ แต่ฝ่ายภรรยาคือ คุณหญิงล้อม เป็นลูกเจ้าสัวมีฐานะดีมากเลย ผู้หญิงสมัยก่อนต้องฟังคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่ก็ไปให้หมอดูช่วยดูดวงให้ก็บอกว่าแต่งไม่ได้นะ แต่งแล้วจะแย่จะอย่างงั้นจะอย่างงี้ ล่มจมอะไรสารพัดอย่าง แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายหญิง มีความเคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำมาก ก็เลยมากราบถามพระเดชพระคุณหลวงปู่ถามว่าจะเอายังไงดี พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านหลับตานิ่งๆ พักเดียวท่านบอกว่า แต่งเลยแต่งแล้วจะรวย สวนหมออื่นทั้งหมด แต่ความที่คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงเคารพหลวงปู่มากพอฟังก็เลยอนุญาตให้แต่ง ฝ่ายหญิงฐานะดี ฝ่ายชายธรรมดา แต่พอแต่งจากความรักที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ฝ่ายชายรู้สึกว่า ฝ่ายหญิงเหมือนดอกฟ้าโน้มกิ่งมาหาเรา ให้โอกาสให้เกียรติเราขนาดนี้ เราต้องรับผิดชอบ ทุ่มเททำงานอย่างหนัก วิริยะอุตสาหะรับผิดชอบครอบครัว ให้เกียรติฝ่ายหญิงตลอดชีวิต ไม่ใช่ชอบตอนสวยๆ สาวๆแล้วพอมีอายุขึ้นมาแล้วมีลูกขึ้นมาแล้วละก็ไม่สนใจใยดี ไปหาเล็กไปหาน้อยไม่ใช่อย่างนั้นนะคือรับผิดชอบตลอดชีวิตเลย
      ส่วนฝ่ายหญิง เรียกว่า เป็นหญิงแม่ศรีเรือนดูแลทุกอย่างไว้อย่างดีเหมือนกัน ฝ่ายชายหาทรัพย์มอบให้ฝ่ายหญิงดูแลการเงินหมด เป็นใหญ่ในบ้านมอบทรัพย์ให้ ฝ่ายหญิงก็จัดการดูแลทุกอย่างอย่างดี เอาไปใช้ซื้อที่ซื้อทางลงทุนทุกอย่าง จนเจริญงอกงามขึ้นมา สุดท้ายเป็นมหาเศรษฐีเป็นพันเป็นหมื่นล้านเลย นี่คือการเปลี่ยนพลานุภาพของความรัก ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ให้เป็นพลังขับเคลื่อน ไปสู่ความวิริยะอุตสาหะในการสร้างฐานะสร้างตัว แล้วก็ประสบความสำเร็จ ความรัก ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบจะยั่งยืน



ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)
             วันวาเลนไทน์ คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์วาเลนไทน์ ผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ความปรารถนาดี ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง แต่สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1,728 ปีล่วงเลยมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ซํ้าร้ายภายใต้การปกครองของกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 ผู้ออกกฎหมายบีบบังคับให้ประชาชนเลิกนับถือ และห้ามให้มีแต่งงานของพวกคริสเตียนเกิดขึ้น แต่ยังคงมีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" หรือที่ได้รับการยกย่องเป็น เซนต์วาเลนไทน์ ในภายหลัง คอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษทรมานแสนสาหัสอยู่ในคุก

        ในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอด
 ซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในคุก ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 พระองค์จึงสั่งให้ลงโทษ วาเลนตินัส ด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น ได้เขียนจดหมายสั้นๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรักของเขา โดยลงท้ายในจดหมายว่า "...จากวาเลนไทน์ของเธอ (Love From Your Valentine) " ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจในความรักของเขา ยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันแห่งความรัก" หรือ "วันวาเลนไทน์"


ดอกไม้จากใจ สำหรับวันวาเลนไทน์นี้



        ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน หรือว่าประเทศใด ดอกไม้นั้นนับว่าเป็นสื่อรักแทนใจที่คลาสสิคที่สุด ไม่เพียงแค่เป็นตัวแทนแห่งความรักสำหรับหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ดอกไม้ยังสามารถสื่อความรักได้หลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว ซึ่งดอกไม้ต่าง ๆ ก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป
            กุหลาบสีแดง : เป็นดอกกุหลาบที่แทนความหมายว่า "ฉันรักเธอ"  ถ้ามอบดอกกุหลาบสีแดงให้แก่คู้รักนั้นหมายความว่าคุณจริงจัง และอยากใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับเค้า
            กุหลาบสีขาว : เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ ในความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
            กุหลาบสีชมพู : เป็นตัวแทนของความโรแมนติกที่สุด แสดงถึงความรักที่กำลังจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
            กุหลาบสีเหลือง : ซึ่งสีเหลืองแสดงถึงความสดใส ส่วนมากจะนำไปหรือมอบแทนความรู้สึกดี ๆ ให้แก่เพื่อน
           ดอกทิวลิปสีแดง : เป็นการแสดงออกถึงความรักอย่างเปิดเผย
           ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู :ใช้แทนความหมายว่า  "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"
           ดอกลิลลี่สีขาว :  แสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์ เฉกเช่นเดียวกับกุหลาบขาว นอกจากนั้นยังแสดงบถึงความรักที่อ่อนหวานและจริงใจ หรืออาจจะแทนความหมายว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้คุณ"
          ดอกฟอร์เก็ตมีน๊อต: มีความหมายลึกซึ้งว่า รักแท้   หรืออาจะสื่อความหมายว่า ได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น